การสอบอารมณ์ เมื่อผู้ปฏิบัติทดลองปฏิบัติกรรมฐานด้วยตนเองไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ครูผู้สอนกรรมฐานจะเรียกผู้ปฏิบัติใหม่ทุกคนมาประชุมและซักถามถึงวิธีกำหนดอารมณ์ และวิธีพิจารณากรรมฐานของผู้ปฏิบัติแต่ละคน ผู้ปฏิบัติต้องเล่าประสบการณ์ความรู้สึกในการสังเกตพฤติกรรมของตน และการใช้เหตุผลของตนเองขณะแสดงพฤติกรรมหรืออิริยาบถต่าง ๆ ตามที่สังเกตได้จริง เป็นการสอบถามและแก้ไขความเข้าใจในขณะนั้น ระหว่างครูผู้สอนและผู้ปฏิบัติ เรียกว่า การสอบอารมณ์ ความมุ่งหมายของการสอบอารมณ์ เพื่อครูผู้สอนใช้ตรวจสอบว่าผู้ปฏิบัติมีความเข้าใจในการเจริญวิปัสสนาได้ถูกต้องตามที่สอนหรือไม่ ถ้าผู้ปฏิบัติยังไม่เข้าใจหรือปฏิบัติยังไม่ถูกต้อง จะได้แนะนำวิธีการที่ถูกต้อง พร้อมทั้งย้ำถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ดังนั้น ความสำคัญขั้นต้นของการสอบอารมณ์ คือ การตรวจสอบผู้ปฏิบัติใหม่หรือผู้ที่เริ่มปฏิบัติว่ามีความเข้าใจถึงความแตกต่างของรูปกับนาม ซึ่งเป็นอารมณ์ของวิปัสสนาถูกต้องแล้วหรือยัง 5.3.3.1 การสอบถามความเข้าใจ และแนะนำการกำหนดอิริยาบถ อ. การกำหนดอิริยาบถ เพื่อประโยชน์อะไร ศ. เพื่อจะได้เห็นทุกข์ อ. ท่านกำหนดอย่างไร ที่จะให้เห็นว่าอิริยาบถเป็นทุกข์ ศ. ขณะที่กำลังกำหนดรูปนั่งยู่ พอปวดเมื่อยเกิดขึ้น ก็ทำความรู้สึกตัวว่ารูปนั่งเป็นทุกข์ เมื่อจะเปลี่ยนอิริยาบถก็ทำความรู้สึกตัวว่าเปลี่ยนไปเพื่อแก้ทุกข์ อ. ถูกแล้ว ต้องมนสิการ คือ ทำความเข้าใจให้ถูกว่า เปลี่ยนไปเพื่อแก้ทุกข์ และความจริงนั้นมันต้องเปลี่ยน ไม่ใช่เปลี่ยนไปเพราะอยากเปลี่ยน ถ้ามนสิการไม่ถูกปัญญาก็ไม่เกิดไม่เห็นความจริง คือ ทุกข์ ในการปฏิบัตินั้น เวลาเดินหรือเวลานั่งก็ดี ท่านต้องวางท่าทางอย่างไรหรือไม่ ศ. เวลานั่งก็เป็นไปตามธรรมดาอย่างที่เคยนั่ง หรือเดินก็เดินอย่างปกติธรรมดาอย่างที่เคยเดิน คือ แต่ก่อนที่ยังไม่มาเข้ากรรมฐาน เคยนั่ง เคยเดินอย่างไร ก็เดินก็นั่งอย่างนั้น แต่ก็ไม่เดินเร็วหรือช้านัก อ. ถ้านั่งก็ต้องนั่งในท่าสมาธิ หรือเดินก็ต้องแบบนั้นแบบนี้ เพราะเป็นการมาทำกรรมฐาน จึงต้องมีท่าทางพิเศษเช่นนี้ จะเป็นการถูกต้องหรือไม่ ศ. ไม่ถูกต้อง อ. เพราะอะไร จึงไม่ถูกต้อง ศ. เพราะจะกลายเป็นนั่งกรรมฐาน หรือเดินกรรมฐานไป อ. เพราะเรามาเจริญกรรมฐาน เวลานั่งก็ควรจะมีท่าทางให้เป็นนั่งกรรมฐาน เดินก็ต้องมีท่าทางให้เป็นเดินกรรมฐาน แล้วจะเป็นการเสียหายแก่วิปัสสนา หรือไม่เป็นการถูกต้อง ในการปฏิบัติวิปัสสนา กรรมฐานอย่างไร ศ. ถ้าเข้าใจว่านั่งก็เป็นกรรมฐาน เดินก็เป็นกรรมฐานนั้น ก็เป็นการทำความเข้าใจไว้ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้เห็นหรือเข้าใจไปว่า การนั่งอย่างนั้นๆ หรือการเดินอย่างนั้น ๆ เป็นของดี มีสาระแก่นสาร ความยินดีพอใจก็เข้าอาศัยในการเดินการนั่งอย่างนั้น ตัณหา คือ ความยินดีพอใจก็ไม่คลายออกจากความเข้าใจในเวลากำหนดอิริยาบถนั้น ๆ เรื่อยไป จึงไม่เชื่อว่าเป็นการทำความแยบคายไว้ในใจโดยถูกต้อง
การสอบอารมณ์
ReplyDeleteเมื่อผู้ปฏิบัติทดลองปฏิบัติกรรมฐานด้วยตนเองไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ครูผู้สอนกรรมฐานจะเรียกผู้ปฏิบัติใหม่ทุกคนมาประชุมและซักถามถึงวิธีกำหนดอารมณ์ และวิธีพิจารณากรรมฐานของผู้ปฏิบัติแต่ละคน ผู้ปฏิบัติต้องเล่าประสบการณ์ความรู้สึกในการสังเกตพฤติกรรมของตน และการใช้เหตุผลของตนเองขณะแสดงพฤติกรรมหรืออิริยาบถต่าง ๆ ตามที่สังเกตได้จริง เป็นการสอบถามและแก้ไขความเข้าใจในขณะนั้น ระหว่างครูผู้สอนและผู้ปฏิบัติ เรียกว่า การสอบอารมณ์
ความมุ่งหมายของการสอบอารมณ์ เพื่อครูผู้สอนใช้ตรวจสอบว่าผู้ปฏิบัติมีความเข้าใจในการเจริญวิปัสสนาได้ถูกต้องตามที่สอนหรือไม่ ถ้าผู้ปฏิบัติยังไม่เข้าใจหรือปฏิบัติยังไม่ถูกต้อง จะได้แนะนำวิธีการที่ถูกต้อง พร้อมทั้งย้ำถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ดังนั้น ความสำคัญขั้นต้นของการสอบอารมณ์ คือ การตรวจสอบผู้ปฏิบัติใหม่หรือผู้ที่เริ่มปฏิบัติว่ามีความเข้าใจถึงความแตกต่างของรูปกับนาม ซึ่งเป็นอารมณ์ของวิปัสสนาถูกต้องแล้วหรือยัง
5.3.3.1 การสอบถามความเข้าใจ และแนะนำการกำหนดอิริยาบถ
อ. การกำหนดอิริยาบถ เพื่อประโยชน์อะไร
ศ. เพื่อจะได้เห็นทุกข์
อ. ท่านกำหนดอย่างไร ที่จะให้เห็นว่าอิริยาบถเป็นทุกข์
ศ. ขณะที่กำลังกำหนดรูปนั่งยู่ พอปวดเมื่อยเกิดขึ้น ก็ทำความรู้สึกตัวว่ารูปนั่งเป็นทุกข์ เมื่อจะเปลี่ยนอิริยาบถก็ทำความรู้สึกตัวว่าเปลี่ยนไปเพื่อแก้ทุกข์
อ. ถูกแล้ว ต้องมนสิการ คือ ทำความเข้าใจให้ถูกว่า เปลี่ยนไปเพื่อแก้ทุกข์ และความจริงนั้นมันต้องเปลี่ยน ไม่ใช่เปลี่ยนไปเพราะอยากเปลี่ยน ถ้ามนสิการไม่ถูกปัญญาก็ไม่เกิดไม่เห็นความจริง คือ ทุกข์
ในการปฏิบัตินั้น เวลาเดินหรือเวลานั่งก็ดี ท่านต้องวางท่าทางอย่างไรหรือไม่
ศ. เวลานั่งก็เป็นไปตามธรรมดาอย่างที่เคยนั่ง หรือเดินก็เดินอย่างปกติธรรมดาอย่างที่เคยเดิน คือ แต่ก่อนที่ยังไม่มาเข้ากรรมฐาน เคยนั่ง เคยเดินอย่างไร ก็เดินก็นั่งอย่างนั้น แต่ก็ไม่เดินเร็วหรือช้านัก
อ. ถ้านั่งก็ต้องนั่งในท่าสมาธิ หรือเดินก็ต้องแบบนั้นแบบนี้ เพราะเป็นการมาทำกรรมฐาน จึงต้องมีท่าทางพิเศษเช่นนี้ จะเป็นการถูกต้องหรือไม่
ศ. ไม่ถูกต้อง
อ. เพราะอะไร จึงไม่ถูกต้อง
ศ. เพราะจะกลายเป็นนั่งกรรมฐาน หรือเดินกรรมฐานไป
อ. เพราะเรามาเจริญกรรมฐาน เวลานั่งก็ควรจะมีท่าทางให้เป็นนั่งกรรมฐาน เดินก็ต้องมีท่าทางให้เป็นเดินกรรมฐาน แล้วจะเป็นการเสียหายแก่วิปัสสนา หรือไม่เป็นการถูกต้อง ในการปฏิบัติวิปัสสนา กรรมฐานอย่างไร
ศ. ถ้าเข้าใจว่านั่งก็เป็นกรรมฐาน เดินก็เป็นกรรมฐานนั้น ก็เป็นการทำความเข้าใจไว้ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้เห็นหรือเข้าใจไปว่า การนั่งอย่างนั้นๆ หรือการเดินอย่างนั้น ๆ เป็นของดี มีสาระแก่นสาร ความยินดีพอใจก็เข้าอาศัยในการเดินการนั่งอย่างนั้น ตัณหา คือ ความยินดีพอใจก็ไม่คลายออกจากความเข้าใจในเวลากำหนดอิริยาบถนั้น ๆ เรื่อยไป จึงไม่เชื่อว่าเป็นการทำความแยบคายไว้ในใจโดยถูกต้อง